เป็นเรื่องปกติที่เมื่อมีข้อมูลจำนวนมากแล้วจะต้องจัดเก็บ แต่หากจะพูดว่า “การจัดเก็บและรวบรวมข้อมูลที่มีจำนวนมากหรือจำนวนมหาศาล” นั้น ก็คงจะพูดยากและอาจเสียเวลาไปสักหน่อย สำนักราชบัณฑิตยสภาจึงได้มีการบัญญัติคำศัพท์ขึ้นมาใหม่ด้วยคำว่า “Big Data” ซึ่งเป็นคำที่ทำให้ทุกคนเข้าใจตรงกันว่าหมายถึงอะไร
Big Data คืออะไร
Big Data (อ่านว่า บิ๊ก-เดต้า หรือ บิ๊ก-ดาต้า) คือ แหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ที่ผ่านการเก็บและรวบรวมข้อมูลจากหลากหลายสิ่ง ทั้งจำนวนประชากรและจำนวนการใช้งานในเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชันต่าง ๆ ซึ่งในสมัยก่อนการเก็บข้อมูลที่มีขนาดใหญ่หรือจำนวนมหาศาลนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนยาก เราจึงมักจะเห็นการเก็บข้อมูลแบบ Cookies และ Cashes อยู่บ่อยครั้ง หรือการเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ที่ข้อมูลอาจได้ไม่ตรงตามความเป็นจริง ซึ่งก็ทำให้ผลที่ออกมาเกิดความผิดพลาดได้มากขึ้น Big Data จึงสามารถเข้ามาช่วยในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
Big Data Analytics คืออะไร
นอกจากจะมีคำศัพท์ว่า Big Data ที่หมายถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีอย่างมหาศาลแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งคำที่ควรรู้ นั่นก็คือ “Big Data Analytics” ซึ่งคำนี้จะมีความหมายว่า การวิเคราะห์เพื่อการจัดเก็บข้อมูลที่มีขนาดใหญ่และนำข้อมูลเหล่านั้นมาเชื่อมโยงกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับพฤติกรรมของมนุษย์มากที่สุดนั่นเอง ซึ่งการทำงานของ Big Data Analytics นั้น ส่วนใหญ่จะใช้กันในสายงานที่เกี่ยวข้อกับธุรกิจต่าง ๆ เพื่อการนำไปใช้ในการสร้างกำไรเกี่ยวกับการตลาด และสามารถนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าของเราสนใจได้มากยิ่งขึ้น
Big Data ในชีวิตประจำวัน
สำหรับในเรื่องของ Big Data ในชีวิตประจำวันนั้น เป็นอะไรที่เราเห็นได้ชัดเจนมาก เช่น “พฤติกรรมการใช้สื่อโซเชียล” ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งการใช้โซเชียลนั้นก็เป็นเรื่องปกติที่ผู้คนส่วนใหญ่มักจะใช้งานกันอยู่แล้ว แล้วคุณรู้หรือไม่ว่า Facebook , Twitter , หรือแม้กระทั่ง INSTAGRAM ที่คุณใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั้น มีการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานของคุณอยู่ตลอดเวลา ว่าคุณมีพฤติกรรมในการใช้งานบนแอพพลิเคชันนั้น ๆ หรือเว็บไซต์นั้น ๆ อย่างไรบ้างและทางผู้พัฒนาก็จะนำข้อมูลต่าง ๆ ของคุณมาปรับปรุงและแสดงสิ่งที่คุณสนใจขึ้นมา
Big Data กับธุรกิจ
Big Data ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นลำดับต้น ๆ ในการทำธุรกิจ เพราะสามารถช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้านั้นถูกต้องและแม่นยำมากขึ้นนั่นเอง ซึ่ง Big Data กับธุรกิจนั้นจะต้องมีอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญเลยนั่นก็คือ Data Science ที่แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “วิทยาศาสตร์ข้อมูล” เพราะองค์ประกอบนี้จะมีการใช้เครื่องมือทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูล ทำให้สามารถได้ข้อมูลเชิงสถิติที่ดียิ่งขึ้นและสามารถเชื่อมโยงรวมถึงหาความสัมพันธ์เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งานสื่อของลูกค้า เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางธุรกิจได้
ประโยชน์ Big Data
ประโยชน์ของ Big Data นั้น มีอยู่มากมายเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่ก็จะมีความเกี่ยวข้องในเรื่องของทางธุรกิจโดยเฉพาะสื่อโซเชียลและการตลาดออนไลน์ต่าง ๆ สามารถสรุปได้คร่าว ๆ ดังนี้
- Big Data ช่วยในการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานแอพพลิเคชันและเว็บไซต์ของมนุษย์ได้ดีกว่าการใช้แบบสำรวจ
- Big Data สามารถวิเคราะห์ข้อมูลในด้านต่าง ๆ ของลูกค้าได้ เช่น ความชอบในผลิตภัณฑ์ตัวนั้น ๆ ของลูกค้า ซึ่งเมื่อลูกค้าทำการค้นหาสินค้าตัวนั้นบ่อย ๆ Big Data ก็จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการทำให้สินค้าตัวนั้น ๆ แสดงให้ลูกค้าดูบ่อย ๆ นั่นเอง
- ช่วยทำให้การทำธุรกิจเป็นเรื่องง่ายขึ้น เพราะ Data Scientist สามารถวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ รวมถึงใช้ภาษาทางคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องมาเชื่อมโยงกับข้อมูลของลูกค้า และสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจได้
นอกจากนี้ Big Data ยังมีประโยชน์ต่อธุรกิจอีกมากมาย ซึ่งในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใด ๆ ต่างก็จะต้องใช้ Big Data ในการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยกันทั้งสิ้น
สรุป
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Big Data นั้น เป็นสิ่งที่สำคัญในการบริหารธุรกิจและการตลาดให้สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งก็มีกระบวนการต่าง ๆ ที่ค่อนข้างซับซ้อนจึงต้องอาศัยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ ธุรกิจต่าง ๆ จึงจะสามารถสร้างกำไรที่มีมูลค่าได้จากฐานข้อมูลเหล่านี้นั่นเอง