สมัคร facebook | สมัคร Hotmail | สมัคร Gmail
Saturday, 22 March 2025

Market Share คืออะไร สู้กับแบรนด์ใหญ่ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด

29 Oct 2024
283

การที่บริษัทจะสามารถเติบโตขึ้นได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยองค์ประกอบหลายๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพสินค้า การบริการ ทักษะการขาย รวมไปถึงหลักความรู้ในเรื่องการบริหาร แต่ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่จะเป็นตัวช่วยดีที่สำหรับคนที่กำลังลงทุนทำธุรกิจ โดยเฉพาะกับการต้องเข้าไปสู้กับแบนรด์ใหญ่ภายในตลาด ที่จะทำให้สามารถแข่ขันกับคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นก็คือ ส่วนแบ่งทางการตลาด (Market share) ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่น่าสนใจมากที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้

Market Share หรือส่วนแบ่งทางการตลาด คืออะไร

Market Share หรือส่วนแบ่งทางการตลาด คืออะไร

Market Share หรือก็คือ ส่วนแบ่งทางการตลาด เป็นตัวเลขทางธุรกิจที่สามารถนำมาคิดเป็นร้อยละเท่าไหร่ของตลาดในภาพรวม ยกตัวอย่างก็คือ ตลาดธุรกิจน้ำเมาของประเทศไทยทั้งหมดร้อยละ 100 มีน้ำเมายี่ห้อสิงค์คิดเป็นร้อยละ 70 และน้ำมันยี่ห้อช้าง กับลีโอ อย่างละ 15 ตามลำดับ เป็นต้น

ความสำคัญของส่วนแบ่งทางการตลาด คืออะไร

หลายๆ คนหันมาให้ความสำคัญกับส่วนแบ่งทางตลาดกันเพิ่มมากขึ้น เพราะจะสามารถทำให้ธุรกิจนั้นๆ สามารถรู้ได้ว่าความต้องการของสินค้าที่อยู่ภายในตลาดมีตัวเลขมากน้อยเพียงใด และถ้าหากลงทุนเข้าไปจะสามารถทำเงิน ทำกำไรได้หรือไม่ ที่สำคัญยังสามารถทำนำใช้เป็นตัวกำหนดรายได้รวม ไปจนถึงแนวโน้ม และพฤติกรรมของผู้บริโภค หรือก็คือ ขนาดของตลาด ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นองค์ประกอบหลักที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตขึ้นได้นั่นเอง เพราะการที่ธุรกิจจะสามารถประสบความสำเร็จได้ รวมไปถึงสิ่งที่จะทำให้องค์กรเติบโตขึ้น Market Share ถือว่าเป็นส่วนสำคัญ เพราะถ้าหากเรารู้ว่าในตลาดมีการแข่งขันประเภทไหนที่สูง หรือมีช่องทางในการเติมเต็มความต้องการได้ดีกว่า โอกาสประสบความสำเร็จก็จะสูงขึ้นได้นั่นเอง

ส่วนแบ่งทางการตลาด ใช้ประโยชน์ใดได้บ้าง

ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจในด้านไหน รวมไปถึงองค์กรต่างๆ ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จได้ตรงกับความต้องการ หรืออยากจะสร้างความเติบโตให้กับแบรนด์ที่กำลังลงทุน สิ่งสำคัญก็คือขั้นตอน และวิธีการที่นำมาใช้กับรูปแบบของธุรกิจต่างๆ ก่อนอื่นเลยต้องมีความรู้เกี่ยวกับด้านลงทุนโดยตรง เพราะไม่มีทางที่ธุรกิจประเภทไหนจะเติบโตได้

ถ้าหากไม่มีการจัดการเรื่องเงินที่ดี เพราะฉะนั้นข้อมูล ความรู้ โดยเฉพาะในเรื่องการตลอดถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เป็นสิ่งที่นักลงทุนจำเป็นจะต้องรับรู้ เพราะไม่เพียงแค่เป็นการพัฒนาธุรกิจของตัวเองเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้รู้ได้ว่าธุรกิจอื่นๆ ภายในตลาดไปในทิศทางไหนนั่นเอง ทั้งหมดนี้สามารถนำมาใช้ร่วมกับส่วนแบ่งทางการตลาดได้ เพราะการได้เรียนรู้ด้วยข้อมูลที่เป็นจริง เรียนรู้เกี่ยวกับส่วนแบ่งทางการตลอด จะสามารถทำประโยชน์ดังต่อไปนี้ได้อย่างแน่นอน

1. กำหนดเป้าหมายได้ลึกซึ้ง

สำหรับใครที่เป็นนักการตลาด การได้เรียนรู้ส่วนแบ่งทางการตลาด จะทำให้สามารถศึกษาข้อมูล และตลาดเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้ง ส่งผลโดยตรงต่อการเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการของผู้คน รวมไปถึงผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากสินค้าของเราจริงๆ จากนั้นก็นำมากำหนดแนวทางในการผสมผสานเข้าร่วมกับกิจกรรมอื่นๆ ของการตลาดที่กำลังทำให้มีการสอดคล้องกันให้มากที่สุด

2. เข้าใจความต้องการของตลาด

นักการตลาดที่ดี นักการตลาดที่จะประสบความสำเร็จได้ จำเป็นต้องเข้าใจ และเรียนรู้การตลาดที่แท้จริง และการเรียนรู้ส่วนแบ่งทางการตลาดจะสามารถรู้ความต้องการของตลาดได้อย่างชัดเจน เพราะนอกจากจะต้องกับความต้องการของลูกค้าที่อยู่ภายในตลาด ยังทำให้บริษัทสามารถพัฒนารูปแบบสินค้าได้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้อีกด้วย

3. วิเคราะห์สินค้าได้ชัดเจน

เพราะจะสามารถช่วยให้นักการตลาดจะสามารถวิเคราะห์สินค้าที่มีจัดจำหน่ายอยู่ภายในตลาดได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการช่วยให้ธุรกิจมีการเติบโต ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากวิเคราะห์ได้แม่นยำ รู้ทั้งความต้องการ รู้เวลาในการจัดจำหน่ายที่เหมาะสม ก็จะช่วยให้ธุรกิจ และองค์กรเติบโตขึ้นได้เร็วกว่าเดิมอีกด้วย

4. ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

เพื่อที่จะสามารถช่วยให้เหล่านักการตลาดทั้งหลาย สามารถจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด เพราะการใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า ทั้งภายใน และภายนอกบริษัทมีผลโดยตรงต่องบประมาณ รวมไปถึงแผนการตลาด เพราะฉะนั้นถ้าหากมีการใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะช่วยให้บริษัท หรือองค์มีการพัฒนาที่ต่อเนื่องได้อย่างดีนั่นเอง

การรับรู้ Market Share และ เกณฑ์ในการแบ่งส่วนตลาด

ขั้นตอนต่อไปนี้ถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญ ที่นักการตลาดจะต้องนำไปใช้ ซึ่งเกณฑ์ที่จะนำมาใช้ก็จะมีอยู่ด้วยกันหลายประกายที่จะสามารถช่วยให้ธุรกิจมีการเติบโต โดยเฉพาะยอดขาย ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น โดยเกณฑ์ที่ใช้ในเชิงพฤติกรรมการซื้อจะประกอบได้ด้วยดังต่อไปนี้

  • ลักษณะการซื้อสินค้า เช่น ซื้อบ่อยขนาดไหน
  • ปริมาณในการซื้อสินค้า เช่น แต่ละครั้งซื้อจำนวนเท่าไหร่
  • โอกาสในการนำมาใช้ เช่น ต่อหนึ่งครั้ง จะสามารถใช้ได้จำนวนเท่าไหร่
  • ประโยชน์ที่ต้องการ เช่น คุณภาพ การบริการ และความประหยัด
  • อัตราการใช้ เช่น ปริมาณที่นำมาใช้ในแต่ละครั้ง

ระดับของ Market Share หรือการแบ่งส่วนตลาด

ระดับของ Market Share หรือการแบ่งส่วนตลาด หลักๆ จะมีด้วยกันอยู่ทั้งหมด 3 ระดับดังต่อไปนี้

  • การตลาดรวม (Mass Marking) คำว่า Mass คือการตลาดที่จะสามารถครอบคลุมลูกค้า รวมไปถึงควบคุมจำนวนการผลิต ในจำนวนมาก ถือว่าไม่ได้มีการแบ่งการตลาดแต่อย่างไร เพราะสินค้า และการบริการจะเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด
  • การตลาดแบบแบ่งส่วน (Segment Marketing) การตลาดระดับนี้จะถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ สิ่งสำคัญก็คือสินค้าจะต้องเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก หรือก็คือ สินค้าที่ถูกออกแบบ และผลิตออกมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคโดยตรง
  • การตลาดส่วนย่อย (Niche Marketing) สำหรับการตลาดส่วนนี้จะเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคแบบรายบุคคล

สรุปส่วนแบ่งทางการตลาด

ส่วนแบ่งทางการตลาด ถือว่าเป็นเครื่องมือที่จะทำให้คุณรู้จักธุรกิจ รู้จักตลาด และเข้าถึงความต้องการภายในตลาดได้อย่างดีที่สุด เพราะจะสามารถวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างชัดเจน โดยจะมีการแบ่งลูกค้าเป็นกลุ่มย่อย เพื่อทำการคัดสรรลูกค้าที่มีลักษณะตรงกับความต้องการในรูปแบบเดียวกันจัดมาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน โดยที่จะสามารถช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารด้านการตลาดให้กับบริษัทเติบโตขึ้นได้เป็นอย่างดี เพราะการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง หมายถึงเม็ดเงินจำนวนมากที่จะเข้าสู่บริษัทนั่นเอง