อีกหนึ่งตำแหน่งและสายงานที่กำลังมาแรง เจาะลึกไปในส่วนการทำงานของชาว IT โดยตำแหน่ง CTO นี้ย่อมาจากประโยคเต็ม ๆ ว่า “Chief Technology Officer” CTO แปลว่า “ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี” นั่นเอง ซึ่งตำแหน่งงานนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไร มีขอบข่ายการทำงานและต้องมีทักษะในด้านใดบ้าง มาทำความรู้จักกันเลย เผื่ออาจจะเป็นอีกหนึ่งอาชีพในฝันของชาว IT หลาย ๆ คน
CTO หรือ Chief Technology Officer เป็นตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงด้านเทคโนโลยี ทำหน้าที่ดูแลและตัดสินใจเกี่ยวกับการพัฒนาสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีขององค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่องค์กรต้องการ
ทำไมถึงต้อง มีตำแหน่ง CTO
เพราะในช่วง 2 – 3 ทศวรรษที่ผ่านมา เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์จะเกิดขึ้นทุก ๆ 2 – 3 ปี หรืออาจถี่กว่านี้ ในศตวรรษที่ 21 การมีหัวหน้าเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี (CTO) ที่ทำหน้าที่คอยติดตามความก้าวหน้า และเป็นผู้นำโปรแกรมเทคโนโลยีที่มีความสำคัญมากขึ้น โดยหัวหน้าเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีจะทำหน้าที่ดูแล แอปพลิเคชั่น ฮาร์ดแวร์ และสนับสนุนเป้าหมายและพนักงานขององค์กร โดย CTO เป็นหนึ่งในตำแหน่ง IT สูงสุดในลำดับชั้นขององค์กรโดยทั่วไป จากการที่ เทคโนโลยี แอปพลิเคชัน และความปลอดภัยทางไซเบอร์อยู่ในสถานะที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และ CTO ที่มีความเชี่ยวชาญ จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อเปลี่ยนแปลงและดำเนินการเชิงรุกในกลยุทธ์ของตนเอง บริษัทต่าง ๆ มักจะจ้างผู้สมัครที่มีปริญญาโทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือการศึกษาด้าน IT ที่คล้ายคลึงกัน
ความรับผิดชอบ และหน้าที่การทำงานของ CTO
ความรับผิดชอบหลักของ CTO คือ การทำความเข้าใจและใช้เทคโนโลยี ที่ช่วยทำให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดขององค์กร CTO โดยมุ่งเน้นไปที่การทำงาน 4 ด้านหลักของธุรกิจ
- การนำโครงสร้างพื้นฐานไปใช้ : เมื่อบริษัทเติบโตขึ้น โครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิคจะต้องสนับสนุนเป้าหมายด้วยเช่นกัน โดย CTO จะแนะนำธุรกิจให้ทำความรู้จักกับการใช้เทคโนโลยีใหม่ นำเสนอการรักษาความปลอดภัยข้อมูล และการบำรุงรักษาเครือข่าย
- การวางแผนเทคโนโลยี : วิวัฒนาการของเทคโนโลยีดำเนินไปในอัตราที่เร็วกว่าที่ธุรกิจจะสามารถไล่ตามทันได้ ดังนั้น CTO จะกำหนดว่าเทคโนโลยีใหม่ใดที่ธุรกิจควรนำไปใช้กับกระบวนการปัจจุบัน เพื่อขับเคลื่อนความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
- การมุ่งเน้นเจาะลึกไปหาลูกค้า : CTO มุ่งเน้นไปที่ตลาดเป้าหมายของธุรกิจ และปรับใช้โครงการ IT เพื่อสนับสนุนประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า
- ต้องมีภาวะผู้นำทางความคิด : CTO ทำงานอย่างใกล้ชิดกับสมาชิกผู้บริหารของบริษัท ซึ่งมักจะรายงานตรงต่อ CEO ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เกี่ยวกับแนวโน้มเทคโนโลยีและตลาดเป้าหมาย CTO จึงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนากลยุทธ์ขององค์กรเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT และการบริหารเงินทุนที่จำเป็นต่อการบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ
- ติดตามเทรนด์ดิจิทัลล่าสุด : CTO ทำหน้าที่ติดตามเทรนด์ดิจิทัลล่าสุด และต้องวิเคราะห์ด้วยว่าแนวโน้มเหล่านั้นจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างไร
ประเภทและหน้าที่การทำงานของ CTO
ในขณะที่การวิจัย และพัฒนาเป็นองค์ประกอบหนึ่งของธุรกิจมาหลายปีแล้ว แต่การเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และคอมพิวเตอร์ ได้เพิ่มความสำคัญของหัวหน้าเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีมากขึ้น ทำให้บริษัทที่มุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ทางวิทยาศาสตร์และอิเล็กทรอนิกส์ จะทำการจ้าง CTO ที่รับผิดชอบในการกำกับดูแลทรัพย์สินทางปัญญา แต่ทั้งนี้ความรับผิดชอบและบทบาทของ CTO ก็ขึ้นอยู่กับบริษัทด้วย โดยทั่วไป CTO แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ซึ่งหน้าที่หลักอาจแตกต่างกันไป ดังนี้…
1.ผู้ดูแลโครงสร้างพื้นฐาน
CTO ทำหน้าที่ดูแลข้อมูลของบริษัท ความปลอดภัย การบำรุงรักษา และเครือข่ายของบริษัท และอาจใช้กลยุทธ์ทางเทคนิคของบริษัท CTO จัดการแผนงานทางเทคโนโลยีของบริษัทด้วย
2.นักวางแผนกลยุทธ์
CTO ประเภทนี้รวมถึงการนำเสนอวิธีการใช้เทคโนโลยีภายในบริษัท ในขณะที่กำหนดกลยุทธ์ทางเทคนิคให้กับบริษัท CTO นี้จะพิจารณาถึงวิธีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ภายในบริษัทเพิ่มเติมเพื่อให้มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จ ตามที่กำหนดตามเป้าหมาย
3.การประสานงานผู้บริโภค
ในบทบาทนี้ CTO จะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานระหว่างลูกค้าและธุรกิจ โดยรับผิดชอบต่องานลูกค้าสัมพันธ์ ทำความเข้าใจตลาดเป้าหมาย และช่วยส่งโครงการ IT ออกสู่ตลาด
4.นักคิด
CTO ประเภทนี้ จะช่วยกำหนดกลยุทธ์องค์กรและโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี วิเคราะห์ตลาดเป้าหมาย และสร้างโมเดลธุรกิจ นอกจากนี้ CTO จะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ CEO และสมาชิกคนอื่น ๆ ของผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอีกด้วย
CTO ควรมีทักษะอะไรบ้าง?
นอกเหนือจากความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีแล้ว CTO ต้องมีความมั่นใจในการนำทีมบุคลากรในหลายแผนกอย่างมีประสิทธิภาพ ในการเป็น CTO ที่ประสบความสำเร็จ มืออาชีพจะต้องมีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค ธุรกิจ และทักษะการจัดการ
ทักษะทางเทคนิค
ทักษะทางเทคนิคของ CTO ต้องการความเชี่ยวชาญในโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT การรักษาความปลอดภัย การจัดการสินทรัพย์ การสนับสนุนแผนกช่วยเหลือ และการวิจัยและพัฒนา ทุกอย่างตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ไปจนถึงเว็บไซต์ของบริษัทอยู่ภายใต้ขอบเขตของ CTO ดูแลบทบาทของเทคโนโลยีในการบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจโดยรวม ซึ่งอาจรวมถึงการจัดการการเข้าถึงเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันบางอย่างบนเครือข่ายของบริษัท การตอบสนองต่อการหยุดทำงานและการแฮ็กทางไซเบอร์ และการสำรองข้อมูลคีย์
1.ทักษะทางธุรกิจและการจัดการ
CTO จะต้องสามารถจัดการทีม สื่อสารข้ามแผนกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำงานร่วมกับผู้บริหารคนอื่น ๆ ในฐานะผู้นำของบริษัท CTO จะต้องแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในความต้องการของธุรกิจ และดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ เพื่อสนับสนุนแผนเหล่านี้ CTO จะต้องมีความรู้ในสาขาวิชาต่าง ๆ เช่น…การเงิน การสร้างแบบจำลองทางธุรกิจ และการจัดการโครงการ
2.ความเป็นผู้นำ
เพื่อให้ทีม IT ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ CTO ต้องจูงใจพนักงานให้ทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น CTO จะต้องมอบหมายความรับผิดชอบให้กับผู้นำคนอื่น ๆ ในแผนก IT อย่างชัดเจน พร้อมทั้งให้คำปรึกษาเมื่อจำเป็น นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่มีพนักงาน IT หลายร้อยคน
3.การตัดสินใจ
CTO ต้องทำการตัดสินใจที่สำคัญหลายอย่าง บ่อยครั้งเกี่ยวกับการซื้อเทคโนโลยีใหม่ และการจัดสรรทรัพยากรเพื่อดำเนินโครงการ เพื่อให้เป็นไปตามงบประมาณของแผนก IT CTO อาจต้องหาวิธีลดต้นทุน เช่น…บริการเอาท์ซอร์สหรือเปลี่ยนผู้จำหน่ายบุคคลที่ 3
อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของบริษัท นอกจากนี้ CTO อาจต้องจัดการแผนกต่าง ๆ เช่น…ดำเนินโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย การรักษาความปลอดภัย และการสนับสนุน Help Desk ด้วย ดังนั้นจึงเป็นอีกรูปแบบหนึ่งในการทำงาน ที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว
บทความน่าสนใจ
KPI คืออะไร ?
CEO คืออะไร ?
CFO คืออะไร ?
COO คืออะไร ?
CIO คืออะไร ?
CMO คืออะไร ?