Digital Marketing เป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจควรให้ความสำคัญในปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักธุรกิจขนาดใหญ่หรือเล็ก การพัฒนา Digital Marketing Strategy ให้เหมาะสมจะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตจนประสบความสำเร็จได้
ในบทความนี้เราจะพามารู้จักกับ Digital Marketing Strategy กลยุทธ์ที่ช่วยต่อยอดการสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Digital Marketing Strategy คืออะไร?
Digital Marketing Strategy คือการกำหนดแผนการตลาดบนโลกออนไลน์ เพื่อช่วยให้คุณบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่คุณกำหนดไว้ เช่น การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพิ่ม Lead Generation หรือเพิ่มยอดขาย
แน่นอนว่านักการตลาดจำเป็นต้องประเมินสื่อออนไลน์ทุกประเภทที่จำเป็นต้องใช้ เพื่อจัดการงบประมาณให้เหมาะสมก่อนที่จะเริ่มวางแผนการดำเนินการทั้งหมด
ประโยชน์ของ Digital Marketing Strategy มีอะไรบ้าง?
การกำหนด Digital Marketing Strategy ที่ดีส่งผลดีต่อธุรกิจของคุณได้ ดังนี้
- ช่วยให้การตลาดมีแนวทางชัดเจน เพื่อให้สามารถคาดหวังผลลัพธ์ได้และไม่ทำให้ผู้บริโภคสับสน.
- ช่วยให้ธุรกิจมองถึงลักษณะของกลุ่มเป้าหมายและตลาดที่กำลังจะขยายออกไป.
- ช่วยให้งบประมาณ, เวลา, และแรงงานถูกใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด.
วางกลยุทธ์ให้ปัง! ด้วย 5 ขั้นตอนในการวาง Digital Marketing Strategy
1. รวบรวมข้อมูลสำคัญ
เมื่อคุณเตรียมที่จะทำ Digital Marketing Strategy ควรเริ่มด้วยการรวบรวมข้อมูลที่สำคัญโดยใช้หลักการทางการตลาด 4 ข้อต่อไปนี้
1.) วิเคราะห์เป้าหมาย ด้วยหลักการ SMART GOALS
SMART Goals เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณประมวลผลเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำให้คุณสามารถตรวจสอบได้ว่าแผนการตลาดที่คุณกำลังสร้างเป็นอย่างไร มีความสอดคล้องกับธุรกิจของคุณหรือไม่ โดยมีหลักคิด 5 ข้อ ตามตัวอักษร S-M-A-R-T ดังต่อไปนี้
- S (Specific): เป้าหมายต้องระบุได้อย่างชัดเจนว่าคืออะไร เช่น อยากให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
- M (Measurable): ควรมีวิธีการวัดผลเป้าหมายที่เป็นไปได้ เช่น วัดจากการติดตามจำนวนผู้ติดตามในช่องทางต่าง ๆ หรือจำนวนครั้งที่วิดีโอของเราถูกดู
- A (Attainable): ต้องกำหนดว่าจะทำอะไรเพื่อให้เป้าหมายนี้เป็นจริงได้ เช่น ควรพิจารณาในเรื่องของการก่อตั้งทีมการตลาดเฉพาะกิจหรือการจ้างบริษัทดิจิทัลมาร่วมงาน
- R (Relevant): ตรงกับความจำเป็นของธุรกิจหรือไม่ เช่น แบรนด์อาจเป็นที่รู้จักในบางกลุ่มเป้าหมาย แต่ยังไม่เลือกซื้อสินค้าหรือบริการของเรา เพราะมีตัวเลือกอื่นที่ดีหรือถูกใจมากกว่า
- T (Time-based): จะตั้งเป้าหมายสำเร็จภายในระยะเวลาใด เช่น ภายในระยะเวลา 1 ปี
2.) หาลูกค้าด้วย STP MARKETING
STP Marketing คือกระบวนการที่สำคัญในการทำ DIGITAL MARKETING STRATEGY ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ดังนี้
- Targeting (การเลือกกลุ่มเป้าหมาย)
การรวบรวมข้อมูลเพื่อวิเคราะห์และแยกแยะกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้เกณฑ์ต่าง ๆ เช่น ลักษณะประชากรศาสตร์, ที่อยู่, หรือพฤติกรรมการบริโภค เพื่อทำให้เข้าใจถึงความต้องการ รวมถึงความสนใจของกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน
- Targeting (การเลือกกลุ่มเป้าหมาย)
หลังจากที่มีการแบ่งกลุ่มลูกค้าอย่างชัดเจนแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการเลือกกลุ่มเป้าหมายหลัก โดยการวิเคราะห์องค์ประกอบต่าง ๆ เช่น โอกาสในการเข้าถึงลูกค้า, โอกาสทางการตลาด, และโอกาสในการทำกำไร เพื่อเลือกกลุ่มที่มีศักยภาพสูงสุด
- Positioning (วางตำแหน่งของสินค้า)
การวิเคราะห์และกำหนดตำแหน่งของสินค้าหรือบริการในตลาด เพื่อทำให้เห็นความแตกต่างและคุณค่าที่แบรนด์ของคุณนำเสนอ เมื่อเทียบกับคู่แข่งและโฟกัสลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ที่ช่วยสร้างความโดดเด่นเพื่อแข่งขันในตลาด
3.) ใช้หลักการ SWOT ANALYSIS วิเคราะห์ “จุดแข็ง – จุดอ่อน” ของธุรกิจ
อีกหนึ่งทฤษฎีที่มีความสำคัญใน Digital Marketing Strategy คือการวิเคราะห์ SWOT ซึ่งช่วยให้คุณเข้าใจจุดเด่นและจุดอ่อนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน โดยเน้นทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ดังต่อไปนี้
- S (Strength)
เป็นคุณสมบัติและความสามารถที่ทำให้บริษัทมีความโดดเด่น เช่น ความเชี่ยวชาญของพนักงาน, การสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ, หรือความมีความสัมพันธ์พิเศษกับองค์กรใหญ่ ๆ
- W (Weakness)
เป็นปัจจัยที่อาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของบริษัทลดลง เช่น การขาดประสบการณ์ในการตลาดแบรนด์, จำนวนพนักงานที่ไม่เพียงพอ
- (Opportunity)
เป็นปัจจัยภายนอกที่อาจสร้างโอกาสให้กับบริษัท เช่น การปรับตัวในรูปแบบชีวิตใหม่ ๆ (New Normal) หรือนโยบายของภาครัฐ
- T (Threats)
เป็นปัจจัยภายนอกที่อาจเป็นอุปสรรคต่อบริษัท เช่น พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค, หรือสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่คงที่
4.) เข้าใจลูกค้าด้วย BUYER PERSONA
Buyer Persona คือการจำลองกลุ่มลูกค้าสมมติเพื่อให้คุณเข้าใจลักษณะบุคลิก และการตัดสินใจที่แตกต่างกันของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม รวมทั้งการวางแผนกลยุทธ์ให้เหมาะสม
โดยคุณสามารถสร้างลูกค้าสมมติขึ้นมา 1 คนหรือมากกว่านั้นเพื่อนำข้อมูลมาเปรียบเทียบ ตัวอย่างเช่น การสร้าง Buyer Persona ของบริษัทรองเท้าแฟชั่นสตรี โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้หญิงวัยทำงานที่มีอายุ ระหว่าง 35 – 45 ปี เป็นต้น
2. เริ่มการสร้าง Content
เมื่อคุณได้รับข้อมูลสำคัญทั้งจากบริษัทและกลุ่มเป้าหมายแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการวางแผนสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับสื่อแต่ละประเภทที่จำเป็นต้องใช้ เช่น เขียนบทความบนเว็บไซต์, ตัดต่อวิดีโอสั้นสำหรับ YouTube, Shot และ TikTok, สร้างอัลบั้มโพสต์บนสื่อโซเชียลมีเดีย, หรืออัดรายการพ็อดแคสต์
เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จในขั้นตอนนี้ แนะนำให้เริ่มจากการวาง Guideline ด้วย 5W1H ก่อนที่จะสร้างแผนการตลาดเนื้อหา เพื่อกำหนดว่าจะสร้างเนื้อหาในช่องทางใดและเมื่อใด
3. ค้นหาวิธีเพิ่มคุณภาพของ CONTENT
การประเมินสื่อที่จำเป็นต้องใช้เป็นสิ่งสำคัญในการทำ Digital Marketing Strategy โดยสามารถแบ่งสื่อออกได้เป็น Owned Media, Paid Media, และ Earned Media ตามที่ได้กล่าวไว้ในตอนแรก
โดยเฉพาะใน Paid Media ที่มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของกิจกรรมของการทำ Content เช่น เมื่อคุณสร้าง Content แล้วต้องการให้มีผู้ชมมากขึ้นบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook, Instagram, เว็บไซต์, หรือ Youtube
คุณอาจจำเป็นจะต้องลงทุนในโฆษณาเพิ่มเติมเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการที่ผู้ชมจะเห็น Content ที่คุณสร้างและเพิ่มโอกาสให้ผู้ชมเข้าถึงเนื้อหาของคุณได้มากขึ้น
4. วิเคราะห์ผลลัพธ์ของการทำ Digital Marketing
หลังจากที่คุณสร้าง Content ตาม Digital Marketing Strategy ที่วางไว้แล้ว ขั้นตอนที่ขาดไม่ได้คือการวัดผลเพื่อตรวจสอบว่าคุณได้บรรลุเป้าหมายหรือไม่ การวัดผลนี้จะขึ้นอยู่กับประเภทของสื่อที่คุณใช้ เช่น หากคุณสร้างบทความบนเว็บไซต์ คุณอาจตรวจสอบผลการเข้าถึงเว็บไซต์ผ่าน Google Search Console
หรือหากคุณโฆษณาบน Facebook คุณก็สามารถตรวจสอบผลลัพธ์ผ่าน Facebook Ads Manager และใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดของคุณต่อไป
5. สรุปผลลัพธ์และปรับปรุง Digital Marketing Strategy อยู่เสมอ
หลังจากสรุปผลลัพธ์ที่ได้จากการวัดผลจากโปรแกรมต่าง ๆ คุณจะเริ่มเห็นภาพว่าในครั้งถัดไปควรเพิ่มเติมหรือลดทอนสิ่งใดบ้าง และวิธีใดจะเหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณที่สุด แต่ทั้งนี้อย่าลืมบันทึกผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จและประสบความล้มเหลว เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการพัฒนาแผนการตลาดฉบับใหม่ในอนาคต
Digital Marketing Strategy เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการทำธุรกิจ เนื่องจากมันช่วยให้บรรลุเป้าหมายที่แบรนด์กำหนดไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย Digital Marketing Strategy ที่แต่ละธุรกิจเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับเป้าหมายของธุรกิจนั้น ๆ รวมถึงช่องทางการเข้าถึงลูกค้า งบประมาณที่มีอยู่ และเครื่องมือที่พร้อมใช้งานเพื่อดำเนินการทำกลยุทธ์ตามที่ตั้งไว้
ขอบคุณเนื้อหาจาก:
https://digimusketeers.co.th/blogs/digital-marketing-strategy-คืออะไร