หลายคนเชื่อกันว่า “หากเรามีเบอร์โทรศัพท์ที่ดี” คนที่เราติดต่อสื่อสารด้วยย่อมนำพาซึ่งโชคลาภที่ดี ข่าวดีๆ งานดีๆ มาให้ และยังทำให้ชีวิตของเรารุ่งเรืองขึ้น เบอร์มงคลเป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยตัวเลข ถึงแม้จะไม่สามารถยืนยังได้ทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็เป็นความเชื่อที่ช่วยหล่อเลี้ยงจิตใจและหลายคนที่เปลี่ยนเบอร์ก็พบกับสิ่งดีๆ มากมาย หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังสนใจจะเปลี่ยนชีวิตด้วยเบอร์โทรศัพท์ มาดูกันว่าจะมีวิธีเลือกเบอร์อย่างไรให้ชีวิตรุ่งเรือง
- ตรวจสอบเบอร์ที่เราใช้อยู่ว่าดีหรือไม่
ทุกวันนี้มีเว็บไซต์ตรวจสอบเบอร์มงคลมากมายซึ่งคุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง ผู้ใช้เบอร์เพียงกรอกเบอร์ที่กำลังใช้เข้าไปในระบบ แล้วจะสามารถทราบผลพลังของตัวเลขของเราอย่างแม่นยำและง่ายดาย เราสามารถดูได้ทั้งตัวเลขรวมและเลขคู่ เลขรวมจะบอกถึงคะแนนโดยรวมของเบอร์ซึ่งควรได้คะแนน 80-100% ถือว่าเป็นเบอร์ที่ดีมาก หรือเป็นการนำตัวเลขทั้ง 10 หลักมาบวกกัน จะต้องดูคำพยากรณ์เป็นรายตัวไป หากเบอร์ที่ใช้ได้คะแนนดีอยู่แล้วอาจไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนก็ได้ ส่วนเลขคู่จะเป็นการบอกถึงลักษณะนิสัยใจคอของผู้ถือเบอร์ รวมถึงการคิดการตัดสินใจต่างๆ
- ดูจุดประสงค์ของเราเป็นหลัก
การเปลี่ยนเบอร์มงคล แต่ละคนล้วนมีเหตุผลที่แตกต่างกันไป บางคนเอาไว้เสริมดวงชะตาโชคลาภบารมี บางคนเน้นเสริมเรื่องการงานเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจมาก สำคัญคือต้องเลือกให้ถูกจริตกับงานของเรา เพราะงานแต่ละประเภทใช้ทักษะความสามารถที่แตกต่างกัน อาทิ ผู้รับราชการ นักพูด นักบริหาร นักวางแผน พนักงานขาย คนที่ทำงานเกี่ยวกับความสวยความงาม คนที่ทำงานเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ จะเห็นว่าอาชีพที่กล่าวมานี้ล้วนต้องใช้ทักษะที่แตกต่างกัน ฉะนั้นควรเลือกเบอร์ที่ถูกโฉลกกับประเภทงานของเราเป็นหลัก
- เบอร์ที่ดี ต้องเป็นเบอร์ที่ ทั้งใช่และชอบ
นอกจากการเลือกเบอร์ที่ตรงกับสายงานหรือตรงกับความต้องการส่วนตัวแล้ว ต้องเลือกเพราะรักในเบอร์นั้นด้วย การเลือกเบอร์โทรศัพท์เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ การเลือกเบอร์ให้ได้ผลดีนั้น นอกจากจะตรงกับอาชีพ ชีวิต ดวงชะตาแล้ว ต้องเลือกเบอร์ที่เห็นแล้วรัก เห็นแล้วชอบ อย่างนี้จึงจะเรียกว่าทั้งถูกชะตาและถูกใจ
- เปรียบเทียบหลาย ๆ เบอร์
การเลือกเบอร์ที่ดีควรมีการเปรียบเทียบสัก 2-3 เบอร์ เพื่อจะได้เลือกทั้งเบอร์ที่ชอบและเบอร์ที่ใช่ที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นการเตรียมงบประมาณของเราอีกด้วย แน่นอนว่าเบอร์ที่ยิ่งดียิ่งไม่มีที่ติ ย่อมเป็นเบอร์ที่ราคาแพงตามไปด้วย
- พิจารณางบประมาณของเรา
โดยเฉลี่ยแล้ว เบอร์มงคลราคาจะอยู่ที่หลักพันบาทต้นๆ เป็นต้นไป สูงสุดถึงหลักแสนบาทเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งนั้นเป็นเรื่องของอิทธิพลของตัวเลข ยกตัวอย่างเลขชุด 789 เป็นเลขที่ถือว่าแพงมาก เหมาะสำหรับผู้บริการหรือเจ้าของกิจการ แต่สำหรับผู้ที่ทำงานด้านอื่นอาจไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ ฉะนั้นเราควรตั้งงบประมาณเอาไว้ในใจด้วยส่วนหนึ่ง เช่นไม่เกิน 3000-5000 บาท เพื่อเลือกเบอร์ที่กำลังดีและกำลังทรัพย์เราสามารถจ่ายไหว
- อย่าใจร้อน
การจะหาสิ่งที่ใช่ บางทีใจร้อนมากเกินไปก็อาจจะไม่เจอ หากเจอเบอร์มงคลที่ดีแล้ว มันจะอยู่กับเราตลอดไป ฉะนั้นไม่ควรรีบมากนัก ควรทำการเปรียบเทียบกับหลายศาสตร์ และหลายสำนักเพื่อค้นหาตัวเลขที่เหมาะสมกับเราที่สุด
- หาเลขคู่ที่ชอบโดยไม่สนใจเลขรวม
จริงอยู่ว่าการดูเลขนั้นสามารถดูได้ทั้งเลขคู่และเลขรวม แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่สนใจเลขรวม เน้นการหาเลขคู่หรือตัวเลขเพียงบางชุดเท่านั้น ซึ่งพบเห็นได้จากการดูดวงมาก่อนล่วงหน้า จากนั้นหมอดูแนะนำตัวเลขบางตัวที่เหมาะสมให้ผู้ใช้หาเบอร์เอง ซึ่งจะเลือกเบอร์อะไรก็ได้เพียงให้มีชุดเลขที่แนะนำในเบอร์นั้นก็เป็นพอ
- ใช้บริการหาเบอร์มงคลจากเจ้าของเว็บไซต์
สำหรับบริการเช็คเบอร์มงคลจากเว็บไซต์ นอกจากเราจะสามารถตรวจเบอร์ของเราได้ฟรีแล้ว ยังสามารถใช้บริการให้หาเบอร์มงคลให้เราได้ด้วย การขอความช่วยเหลือจากผู้ที่มีความรู้ในศาสตร์ของตัวเลขโดยตรงย่อมดีกว่าที่เราจะหาเอง
- อย่าเลือกตามคนอื่น
เลขที่ดีสำหรับบางคน อาจไม่ใช่เลขที่ดีสำหรับเราก็เป็นได้ เพราะแต่ละคนมีดวง มีบุญกรรม มีบุพเพวาสนาต่างกัน ฉะนั้นเราควรตรวจเบอร์ด้วยตัวเอง เลือกเพราะใจเราอยากเลือก หากใจของเราชอบแล้วจงอย่าลังเลที่จะเปิดรับสิ่งใหม่
- เลือกเบอร์ก่อนค่อยเลือกเครือข่าย
และสิ่งสุดท้ายเป็นเรื่องที่หลายคนกังวลไม่น้อย เนื่องจากคุ้นชินกับการบริการของเครือข่ายเดิม บ่อยครั้งเบอร์ที่ถูกโฉลกกับเราอาจกลับกลายเป็นเครือข่ายอื่น แนะนำให้เราเลือกเบอร์ที่ใช่เอาไว้ก่อน จากนั้นค่อยทำเรื่องเปลี่ยนเครือข่ายบริการทีหลัง
อย่างไรก็ตามการตรวจเบอร์มงคลมีหลายสำนัก หลายสูตร หลายตำรา บางที่ดูดวงให้ด้วย บางที่ดูแค่เลขคู่ บางที่ดูแค่เลขรวม บางที่ขอดูวันเดือนปีเกิด แต่บางที่ก็เพียงแนะนำตัวเลขมาแล้วให้หาเบอร์เอง ซึ่งทุกสำนักไม่ผิดไม่มีถูก บางสำนักแนะนำเพียงตัวเลขให้ผู้ใช้หาเบอร์เองก็ยังมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นมากมาย ฉะนั้นแนะนำให้ยึดตำราใดตำราหนึ่งเป็นหลัก เน้นศาสตร์ที่เราสบายใจที่สุดเพื่อไม่ให้ใจเราไขว้เขว และแน่นอนหากใจเรารู้สึกใช่ตั้งแต่วิธีการหาเราย่อมได้เจอสิ่งที่ใช่ที่สุดสำหรับเราได้มายาก